Mitsubishi All New Pajero Sport : เผยภาพร่างที่ใกล้เคียงคันจริงมากที่สุด เจอกันในไทย สิงหาคมนี้


2015 ถือได้ว่าเป็นปีทองของตลาด SUV ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานรถกระบะ หรือที่ หน่วยงานภาครัฐของไทย เรียกว่า PPV อย่างแท้จริง เพราะปีนี้  ผู้ผลิตแทบทุกค่าย ทั้งรายเก่า และหน้าใหม่ ตั้งพร้อมใจกันส่งทหารศึก ของตน เข้าร่วมประลองสรรพกำลังอย่างพร้อมเพรียง ชนิดที่ไม่เคย เป็นมาก่อน

สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก การคิดคำนวนภาษีสรรพสามิต อัตราใหม่ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ มากยิ่งขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา จะถูกบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2016 ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ ราคารถยนต์ที่ปล่อยก๊าซ CO2 สูงเกินกว่า 150 กรัม/กิโลเมตร ต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

SUV/PPV ถือเป็นรถยนต์ประเภทที่อยู่ในข่ายถูกปรับราคาขายขึ้น จากปัจจุบันอยู่มาก ดังนั้น ปี 2015 จึงถือเป็นโค้งสุดท้ายที่ ผู้ผลิต จะเร่งเก็บเกี่ยวยอดขายให้ได้มากสุด เท่าที่จะเป็นไปได้ และเป็นโค้งสุดท้ายของผู้บริโภค ซึ่งจะมีโอกาสได้ซื้อรถยนต์ประเภทนี้ ในราคาที่เหมาะสมและจ่ายกันไหว

Ford เป็นผู้ผลิตรายแรก ที่เปิดฉากถล่มตลาด SUV/PPV ในบ้านเรา ด้วยการเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน ของ Ford Everest โดยกวาดยอดจองจากลูกค้าที่เข้าร่วมชมงาน Bangkok International Motor Show เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้อย่างล้นหลาม ถึงขั้นว่า โควต้าของรถ
ซึ่งจะส่งมอบให้กับแต่ละโชว์รูม จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2015 นั้นถูกจับจองเต็มครบหมดเรียบร้อยแล้ว ใครจองรถหลังจากนี้ ต้องยอมรับรถในปี 2016 ภายใต้ราคาใหม่ที่ถูกปรับยกให้แพงขึ้น

ในงานเดียวกัน Isuzu ก็เลือกจะกระตุ้นตลาด ด้วยการเพิ่มออพชัน พิเศษต่างๆ ให้กับ MU-X ในชื่อ MU-X Limited ออกมาเอาใจกลุ่ม ลูกค้าแฟนพันธ์แท้ของตนกันต่อเนื่อง

ถ้าหากไม่รีบร้อน Toyota Fortuner รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ Full Model Change ที่มีกำหนดเปิดตัวในเดือน กรกฎาคม 2015 ก็เตรียมคลอด ออกสู่สายตาคนไทย เป็นประเทศแรกในโลก หลังปล่อยให้บรรดารถทดสอบ พรางตัวแล่นเก็บข้อมูลบนถนนเมืองไทย และในถิ่นออสเตรเลีย จนถูกบันทึกภาพได้ แทบไม่เหลืออะไรให้จินตนาการ
กันอีกต่อไป

แต่ถ้า ทั้ง 3 รุ่นดังกล่าว ยังไม่สะใจ Mitsubishi Motors เขาก็เตรียม ทีเด็ดเอาไว้ สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยอีกเช่นกัน เพราะในช่วงประมาณเดือนสิงหาคมนี้ พวกเขาเตรียมเปิดตัว Pajero Sport รุ่นใหม่ล่าสุด ในบ้านเรา เป็นประเทศแรกในโลก อีกเช่นกัน

หลังจากที่ภาพ Spyshot หลุดออกมาจากดินแดน ดาวน์อันเดอร์มาได้สักหลายสัปดาห์ ในที่สุด KNK นักวาดภาพสเก็ตช์รถยนต์ของ Headlightmag.com ก็ได้ร่างเส้นสาย จากภาพถ่ายรถคันจริงขึ้นมาเพื่อให้คุณผู้อ่าน ได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ฉีกแนวเส้นสายของรุ่นเดิมไปมาก

แม้จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานโครงสร้างงานวิศวกรรมของรถกระบะMitsubishi Triton รุ่นล่าสุด ซึ่งรวมทั้งการยกขุมพลัง Diesel 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.4 ลิตร VG-Turbo Intercooler 181 แรงม้า (PS)พร้อมทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มาติดตั้งให้ทั้งดุ้น แต่เส้นสาย
ด้านหน้าของ Pajero Sport ใหม่ จะแตกต่างไปจากด้านหน้าของTriton โดยสิ้นเชิง

งานออกแบบด้านหน้า ถูกรังสรรค์ขึ้น ให้เป็นไปตามแนวทางการออกแบบยุคใหม่ของ Mitsubishi Motors ที่เพิ่งจะเริ่มใช้กับ SUV Mitsubishi Outlander รุ่นปรับโฉม Minorchange ซึ่งเผยโฉมไปในงาน New York Auto Show ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาหมาดๆ

นอกเหนือจากตัวรถจะยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความ สบายในการเดินทางบนเบาะนั่งแถว 3 แล้ว ชุดไฟท้ายยังจะถูกออกแบบขึ้นในแนวทางใหม่ ที่มีเส้นสายโฉบเฉี่ยว และลากตรงต่อเนื่องลงมายังแผงทับทิมสะท้อนแสง ที่เปลือกกันชนหลังกันอีกด้วย

Pajero Sport รุ่นใหม่ Full Model Change มีกำหนดเปิดตัวในไทย เป็นประเทศแรกในโลก ประมาณเดือนสิงหาคม 2015 คล้อยหลัง การเปิดตัว Toyota Fortuner ใหม่ ไปเพียงไม่กี่สัปดาห์

Camry Minorchange เจาะ Spec+Option แต่ละรุ่นย่อย พร้อมราคา



2.0G  ราคา  1,319,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน

- เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 6AR-FSE VVT-iw D4S
- กำลังสูงสุด 167 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร 
- ล้ออัลลอย 16 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R16
- ไฟหน้าไฟหรี่ แบบ LED
- ไฟหน้า HID โปรเจคเตอร์เดี่ยว
- ไฟสูง Halogen
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบรปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ
- ไฟตัดหมอก หน้า/หลัง
- ไฟ Daytime Running Light
- ไฟท้าย LED
- กระจกมองข้างแบบลดการเกาะตัวของน้ำ
- ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมเลนมุมกว้าง
- ภายในห้องโดยสารสีเบจ 
- ตกแต่งด้วยลายไม้
- พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน หุ้มหนังตกแต่งลายไม้
- พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง (สูง-ต่ำ-ใกล้-ไกล)
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและจอ MID บนพวงมาลัย
- เบาะนั่งหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมปุ่มดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support
- เบาะคนนั่งปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ม่านบังแดดกระจกประตูหลัง
- ม่านบังแดดกระจกหลัง
- จอ Multi-information Display TFT ขนาด 4.2 นิ้ว กลางมาตรวัด
- ระบบชาร์จไฟแบบไร้สาย ( Qi Wireless Charger)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบแยก Dual Zone ( ปรับได้ 18-32 องศา )
- ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบดาวน์ไลท์
- ไฟส่องสว่างที่พักเท้าด้านหน้า
- กุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry
- กระจกไฟฟ้าอัตโนมัติขึ้น-ลง พร้อมระบบ Protection Jam ทุกบาน
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ช่องเชื่อมต่อ AUX
- เครื่องเสียงวิทยุ CD/MP3 Pioneer
- ลำโพง 6 จุด
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS / EBD / BA
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC ( Hill Start Assist Control )
- ถุงลมนิรภัย 4 จุด (คู่หน้า2 และ ด้านข้าง2)
- Sensor กะระยะการจอดด้านกันชนหน้า-กันชนหลัง
- ระบบช่วยเตือนในจุดอับสายตา BSM ( Blind Spot Monitor )
- ระบบช่วยเตือนในขณะถอยรถ RCTA ( Rear Cross Traffic Alert )
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS ( Emergency Stop Signal )
- ระบบตัดน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อเกิดการพลิกคว่ำ
- สัญญาณกันขโมย TDS
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer



----------------------------------------

2.0Extremo  ราคา  1,429,000 บาท
( สิ่งที่จะได้เพิ่มจากรุ่น 2.0G + 110,000 บาท )

- ค้ำโช็คไฮดรอลิก เฉพาะรุ่น Extremo
- ล้ออัลลอย 17 นิ้ว Extremo พร้อมยาง 215/55 R17
- ชุดแต่งรอบคันและสปอยเลอร์หลัง เฉพาะรุ่น Extremo
- ไฟท้าย LED รมดำ เฉพาะรุ่น Extremo
- ท่อไอเสียคู่ เฉพาะรุ่น Extremo
- ภายในห้องโดยสารสีดำ
- ตกแต่งลายไม้
- พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน หุ้มหนังเดินด้ายแดง
- ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
- สวิตซ์ควบคุมการรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย
- ระบบนำทาง Navigation System
- Hands Free Bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ VTR
- เครื่องเสียงวิทยุ CD/DVD/MP3 Pioneer หน้าจอ Touchscreen
- ลำโพง JBL Green Edge Touch 10 จุด
- หน้าจอ Touchscreen เมนูคำสั่ง / การตั้งค่า / ข้อมูลการขับขี่ / แผนที่และการจราจร
- ระบบโทรออกด้วยเสียง Voice Calling
- ระบบ Mirrroring จากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
- ระบบบันทึกหมายเลขโทรศัพท์
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด



----------------------------------------

2.5G  ราคา  1,569,000 บาท
( สิ่งที่จะได้เพิ่มจากรุ่น 2.0 Extremo + 140,000 บาท )

- เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 2AR-FE Dual VVT-i
- กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 231 นิวตันเมตร
- ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55 R17
- ภายในห้องโดยสารสีเบจ 
- ตกแต่งด้วยลายไม้
- พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน หุ้มหนังตกแต่งลายไม้
- กระจกมองหลังปรับลดแสงรบกวน EC Mirror
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด ( คู่หน้า2 - ด้านข้าง2 - ม่านถุงลม2 - หัวเข่าฝั่งคนขับ1 )



----------------------------------------

2.5 Hybrid CD  ราคา  1,679,000 บาท
( สิ่งที่จะได้เพิ่มจากรุ่น 2.5 G + 110,000 บาท )
* ระบบเครื่องเสียงอ้างอิงจากรุ่น 2.0G

- เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 2AR-FXE VVT-i + มอเตอร์ไฟฟ้า
- กำลังสูงสุด 205 แรงม้า
- กระจังหน้าแบบ mash radiator grill
- กระจกหน้าแบบลดแสงและเสียงรบกวน
- ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์คู่
- กระจกมองข้างพับเก็บ-กางออกอัตโนมัติ
- กระจกมองขัางปรับมุมต่ำอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
- ภายในห้องโดยสารสีเบจ 
- ตกแต่งด้วยลายไม้สีพิเศษ
- พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน หุ้มหนังตกแต่งลายไม้สีพิเศษ
- เบาะนั่งหนังแท้ชนิดนุ่มและวัสดุสังเคราะห์
- ระบบระบายอากาศที่เบาะคู่หน้า Seat Ventilator
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะคนขับและกระจกมองข้าง
- ระบบบันทึกตำแหน่งพวงมาลัย
- พนักพิงศีรษะเบาะคนนั่งด้านหน้าพับเก็บได้
- มือจับหลังเบาะคนนั่งหน้า
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบแยก Triple Zone ( ปรับได้ 18-32 องศา )
- ระบบฟอกและกรองอากาศ Nano-e
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- EV Mode
- Eco Mode
- เครื่องเสียงวิทยุ CD/MP3 Pioneer
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ช่องเชื่อมต่อ AUX
- ลำโพง 6 จุด



----------------------------------------

2.5 Hybrid Navi  ราคา  1,729,000 บาท
( สิ่งที่จะได้เพิ่มจากรุ่น 2.5 Hybrid CD + 50,000 บาท )

- สวิตซ์ควบคุมการรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย
- ระบบนำทาง Navigation System
- Hands Free Bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ VTR
- เครื่องเสียงวิทยุ CD/DVD/MP3 Pioneer หน้าจอ Touchscreen
- ลำโพง JBL Green Edge Touch 10 จุด
- หน้าจอ Touchscreen เมนูคำสั่ง / การตั้งค่า / ข้อมูลการขับขี่ / แผนที่และการจราจร
- ระบบโทรออกด้วยเสียง Voice Calling
- ระบบ Mirrroring จากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
- ระบบบันทึกหมายเลขโทรศัพท์
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด

----------------------------------------

2.5 Hybrid Premium  ราคา  1,899,000 บาท
( สิ่งที่จะได้เพิ่มจากรุ่น 2.5 Hybrid Navi + 170,000 บาท )

- เบาะคนนั่งด้านหลังปรับเอนด้วยไฟฟ้า
- แผงควบคุมระบบเอนเบาะ / แอร์ / ม่านหลัง / เครื่องเสียง ที่วางแขนเบาะหลัง
- กล่องเก็บของในที่วางแขนผู้โดยสารด้านหลัง
- ระบบ Dynamic Radar Cruise Control
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ AHB
- ระบบเสริมความปลอดภัยก่อนการชน Pre-Crash System
- ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง LDW ( Lane Departure Warning )

แนะนำรถใหม่ 8 รุ่นน่าซื้อในงบ ไม่เกิน 1 ล้านบาท

ในช่วงปี 2014-2015 ที่ผ่านมา มีรถยนต์ใหม่เปิดตัวหลายต่อหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน จึงขอแนะนำรถยนต์ใหม่น่าซื้อ ในงบประมาณไม่เกิน 1 ล้านบาท จะมีรุ่นไหนบ้าง ไปดูกันครับ


1. Mazda 2 SKYACTIV-D

ประเภท: ซับคอมแพ็ค-อีโคคาร์
เครื่องยนต์: ดีเซล 1.5 ลิตร 4 สูบ SKYACTIV-D
กำลังสูงสุด: 105 แรงม้า (PS)
ราคา: 675,000 - 790,000 บาท

      Mazda 2 SKYACTIV-D ใหม่ เป็นรถยนต์ขนาดซับคอมแพ็ครุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในตลาดบ้านเรา มีจุดเด่นที่เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งให้กำลังมากกว่ารถในระดับเดียวกัน แถมยังประหยัดเชื้อเพลิงเทียบเท่ารถยนต์ไฮบริด รวมถึงยังได้รับการปรับปรุงช่วงล่าง และอุปกรณ์ภายในราวกับรถยุโรปหรูเลยทีเดียว

     ซึ่งแม้ว่าหลายคนยังติดใจในเรื่องของราคาที่สูงกว่าคู่แข่ง รวมถึงเสียงเครื่องยนต์ที่อาจถูกมองว่าไม่เสนาะหูเท่าไหร่นัก แต่หากใครมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไปได้แล้วล่ะก็ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน


2. Honda HR-V

ประเภท: คอมแพ็คครอสโอเวอร์
เครื่องยนต์: เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบ i-VTEC
กำลังสูงสุด: 141 แรงม้า (PS)
ราคา: 890,000 - 1,045,000 บาท

     แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็กทำตลาดกันอยู่บ้างแล้ว แต่หลังจาก Honda HR-V ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็สามารถเรียกเสียงตอบรับจากกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ความกว้างขวางของห้องโดยสาร รวมถึงอ็อพชั่นภายในที่มีมาให้แบบครบครัน HR-V จึงกลายเป็นตัวเลือกแรกๆของคนที่กำลังมองหารถยนต์ในระดับราคา 8 แสนไปจนถึงล้านบาทนิดๆ


3. Suzuki Swift

ประเภท: อีโคคาร์
เครื่องยนต์: เบนซิน 1.25 ลิตร 4 สูบ
กำลังสูงสุด: 91 แรงม้า (PS)
ราคา: 442,000 - 599,000 บาท

     Suzuki Swift ถือว่าเป็นรถยนต์อีโคคาร์ที่ประสบความสำเร็จรุ่นหนึ่ง ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การตกแต่งห้องโดยสารภายในที่เหนือชั้นกว่ารถอีโคคาร์ด้วยกัน รวมถึงระบบช่วงล่างที่ขึ้นชื่อของสวิฟท์ ซึ่งแม้ว่าจะทำตลาดในนานพอสมควรแล้ว แต่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจระดับต้นๆของกลุ่มอีโคคาร์ในปัจจุบัน

     นอกจากนี้ ซูซูกิก็เพิ่งปล่อยรุ่นพิเศษ ‘Swift RX’ ที่เพิ่มอ็อพชั่นโดนๆอย่างไฟหน้าโปรเจคเตอร์ HID และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ทำให้มันน่าสนใจขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว



4. Mazda 3 SKYACTIV

ประเภท: คอมแพ็ค
เครื่องยนต์: เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ SKYACTIV-G
กำลังสูงสุด: 165 แรงม้า (PS)
ราคา: 833,000 - 974,000 บาท

     Mazda 3 ใหม่ เป็นรถยนต์ขนาดคอมแพ็คที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินความจุ 2.0 ลิตรทั้งหมดทุกรุ่นย่อย ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 8 แสนกว่าบาท จึงกลายเป็นรถเพียงรุ่นเดียวที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 2 ลิตร จำหน่ายในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 1 ล้าน แถมยังมาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูสวยงาม มีแนวทางในการออกแบบชัดเจน



5. Honda City

ประเภท: ซับคอมแพ็ค
เครื่องยนต์: เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ i-VTEC
กำลังสูงสุด: 117 แรงม้า (PS)
ราคา: 555,000  - 749,000 บาท

     หากมองหารถยนต์ขนาดซับคอมแพ็คที่ให้ความคุ้มค่าสุดๆ วินาทีนี้คงหนีไม่พ้น Honda City ใหม่ ที่แม้จะมาพร้อมตัวถังขนาดเล็ก แต่ภายในถูกออกแบบให้กว้างขวาง แถมยังมีอ็อพชั่นเด็ดๆเพียบ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้พละกำลังดี สามารถเติมน้ำมัน E85 ได้ จึงถือว่าเป็นรถระดับเริ่มต้น ที่สามารถใช้งานคนเดียวก็ได้ หรือใช้งานแบบครอบครัวก็ดี



6. Ford Fiesta EcoBoost

ประเภท: ซับคอมแพ็ค
เครื่องยนต์: เบนซิน 1.0 ลิตร 3 สูบ EcoBoost
กำลังสูงสุด: 125 แรงม้า (PS)
ราคา: 749,000 - 754,000 บาท

     ฟอร์ด เฟียสต้า อีโค่บูสท์ เป็นรถดีอีกรุ่นที่หลายคนมองข้าม อาจเป็นเพราะราคาสมัยเปิดตัวใหม่ๆที่สูงเกินหน้าคู่แข่งไปนิด แต่นั่นก็แลกมากับเครื่องยนต์ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัด แม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาดเพียง 1 ลิตร แต่ก็แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรได้อย่างสบายๆ แถมยังมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ บวกกับช่วงล่างที่ขึ้นชื่อของฟอร์ด และการออกแบบภายใต้มาตรฐานยุโรป จึงทำให้กลายเป็นรถอีกรุ่นที่นักเลงรถไม่ควรพลาด


7. Mitsubishi Attrage

ประเภท: อีโคคาร์
เครื่องยนต์: เบนซิน 1.2 ลิตร 3 สูบ MIVEC
กำลังสูงสุด: 78 แรงม้า (PS)
ราคา: 443,000 - 582,000 บาท

     รถยนต์อีโคคาร์ตัวถังรูปแบบซีดาน ที่มาพร้อมรูปลักษณ์สวยงาม ลงตัว นอกจากจุดเด่นเรื่องความประหยัดแล้ว      ยังโดดเด่นในเรื่องของอ็อพชั่นภายใน เพราะมีทั้งระบบนำทางแบบสัมผัส, กล้องมองหลัง, Bluetooth เป็นต้น ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่มองหารถราคาประหยัด แต่ให้ความคุ้มค่าในการใช้งาน


8. Honda Jazz

ประเภท: ซับคอมแพ็ค
เครื่องยนต์: เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ i-VTEC
กำลังสูงสุด: 117 แรงม้า (PS)
ราคา: 555,000 - 754,000 บาท

     ฮอนด้า แจ๊ซ ถือเป็นรถแฮทช์แบ็คขนาดซับคอมแพ็คยอดนิยมของคนไทย ซึ่งโมเดลใหม่นอกจากจะมีรูปลักษณ์หน้าตาที่สวยงามถูกใจวัยรุ่นทั้งหลายแล้ว ยังมาพร้อมอ็อพชั่นโดนใจอีกเพียบ ถือเป็นทางเลือกนอกเหนือจากรุ่น City สำหรับใครที่ชื่นชอบตัวถังสไตล์ 5 ประตูมากกว่า

เปิดตัว NISSAN X-TRAIL หรูหรา พร้อมทะยานทุกการใช้งาน


รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ระดับพรีเมียม ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดพิเศษติดตั้งเป็นครั้งแรกในตลาดเอสยูวีราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทไทย เช่น จอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว แสดงผลข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขับ, ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน, ระบบกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor), ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ (Active Engine Brake)  และระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control) ด้านภายในห้องโดยสารเป็นที่นั่งแบบ 5+2 โดดเด่นด้วยซันรูฟพาโนรามิคในรุ่นท็อป และประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ส่วนเครื่องยนต์เป็นเบนซินขนาด 2.0 และ 2.5 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT 7 สปีด รุ่น 2.0 ลิตรมีทั้งขับแบบเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ ส่วนรุ่น 2.5 ลิตร มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทุกรุ่นผ่านผลการทดสอบด้านความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว จากหน่วยงานอิสระทดสอบด้านความปลอดภัย Euro NCAP 
นิสสัน เอ็กซ์เทรลใหม่ กับการติดตั้งระบบอัจฉริยะครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน
  • ครั้งแรกในโลก กับระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (Active Engine Brake)
  • ครั้งแรกในโลก กับระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control)
  • ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ กล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor - AVM)
  • ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ กับ Panoramic Sunroof
  • ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ กับหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว
  • ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ กับไฟหน้า LED โปรเจกเตอร์ และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (Daytime running lights)
  • ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์เอนกประสงค์ กับประตูท้ายเปิด-ปิด อัตโนมัติพร้อมระบบป้องกันการหนีบ
รูปลักษณ์โดดเด่น มีสไตล์
  • ซันรูฟแบบพาโนรามิค พร้อมระบบเปิด-ปิดแบบวันทัช
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED
  • เบาะที่นั่งภายในแบบ 3 แถว
  • ฐานล้อที่ได้รับการปรับให้ยาวขึ้น เพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร
  • ประตูท้ายเปิด-ปิด อัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • ล้ออัลลอยแบบสปอร์ตขนาด 17 นิ้ว (รุ่น 2.0 ) และขนาด 18 นิ้ว (รุ่น 2.5)
  • ยางขนาด 225/65 R 17 (รุ่น 2.0) และขนาด 225/60 R18 (รุ่น 2.5)
ความสะดวกสบายที่เหนือระดับ
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นทรง 3 ก้าน สามารถควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบการทำงานของเครื่องเสียง และระบบเชื่อมต่ออื่นๆ ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบ Dual zone ปรับแยกอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา
  • หน้าจอแสดงผล 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว พร้อมแสดงผลข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขับ รวมทั้งการทำงานของระบบ Advanced Chassis Control ในแบบเรียลไทม์ และแสดงการทำงานของระบบขับเคลื่อนในรุ่น 4WD
  • ระบบเครื่องเสียง พร้อมอุปกรณ์เชื่อมต่อสามารถเล่น CD, MP3, AUX, USB และระบบ Nissan Connect สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน โดยผ่าน Application ที่ล้ำสมัย สามารถอัพเดทข้อมูลผ่าน Facebook และค้นหาสถานที่ต่าง ๆ ผ่าน Google search และเชื่อมต่อระบบนำทางได้บนรถทันที ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย
  • สะดวกสบายมากขึ้นด้วย ประตูด้านหลังเปิดกว้างได้มากถึง 80 องศา 
  • เบาะนั่งคนขับแบบ Spinal support ได้รับการออกแบบพิเศษเพื่อให้รองรับแนวกระดูกสันหลัง พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ช่วยผ่อนคลายยามขับทางไกล
ส่วนอุปกรณ์และระบบอำนวยความสะดวกในการขับขี่และความปลอดภัยอื่นๆ
  • กุญแจอัจฉริยะพร้อมระบบ Immobilizer และสัญญาณกันขโมย
  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ช่วยให้คุณมองเห็นได้รอบทิศทาง เพิ่มความปลอดภัยในการจอดรถได้มากยิ่งขึ้น
  • ระบบความปลอดภัยภายใต้แนวคิด นิสสัน Safety Shield โครงสร้างตัวถังนิรภัย (Zone Body Concept) แข็งแกร่งเป็นพิเศษ รองรับการกระแทกรอบด้าน พร้อมระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) ระบบป้องกันการล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบเบรกป้องกันการล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) ติดตั้งระบบ Advanced Chassis Control เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย 
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ช่วยป้องกันไม่ให้ตัวรถไหลขณะออกตัวบนทางลาดชัน (HSA - Hill Start Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ช่วยป้องกันมิให้รถไหล โดยใช้กำลังเครื่องยนต์หน่วงเพื่อชะลอความเร็วให้ต่ำลงโดยไม่ต้องเหยียบแป้นเบรก (HDC - Hill Descent Control)
  • ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ ในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (AEB - Active Engine Brake)
  • ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ เพื่อประสิทธิภาพในการทรงตัวให้ดียิ่งขึ้น (ARC - Active Ride Control)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง ช่วยป้องกันการหลุดโค้ง  (ATC - Active Trace Control)
  • ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น ระบบจะช่วยส่งแรงเบรกไปยังล้อที่เกิดการลื่นไหล เพื่อให้ผู้ขับควบคุมทิศทางรถได้ทันท่วงที (ABLS - Active Brake Limited Slip)
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ กับ 2 เครื่องยนต์เบนซินใหม่ ตัวแรก MR20DD ขนาด 2.0 ลิตร Direct injection 144 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมัน และ QR25DE เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร  171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร ตอบสนองอัตราเร่งทันใจ ทั้ง 2 เครื่องยนต์ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ X-TRONIC CVT รุ่นใหม่ พร้อมระบบ manual mode 7 จังหวะ มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถเลือกโหมดการทำงานได้ตามต้องการ เช่น 2WD เพื่อความประหยัด, Auto เพื่อควบคุมและกระจายแรงบิดไปล้อทั้ง 4 โดยอัตโนมัติ และ 4WD LOCK เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการบุกตะลุยเส้นทางอันท้าทาย    

  ราคานิสสัน เอ็กซ์เทรลใหม่ - (Nissan X-Trail) 4 รุ่นย่อย
  • Nissan X-Trail 2.0S CVT 2WD 1,172,000 บาท 
  • Nissan X-Trail 2.0E CVT 2WD 1,246,000 บาท  
  • Nissan X-Trail 2.0V CVT 4WD 1,325,000 บาท  
  • Nissan X-Trail 2.5V CVT 4WD 1,551,000 บาท  
สอบถามเพิ่มเติมพร้อมทดลองขับนิสสัน เอ็กซ์เทรลใหม่ได้ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศ โทร. 02-401-9600  

New Nissan Juke Minor Change เปิดตัว 24 กพ 58



หลังจากที่มีข่าว Nissan Juke ไมเนอร์เช้นจ์ ขณะกำลังถ่ายทำโฆษณาที่ไทยก็ได้มีข่าวออกมายืนยันอีกครั้งว่า นั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือแต่นิสสันพยายามจะเปิดตัวรถยนต์ใหม่อย่าง Nissan Juke Minor Change แน่นอน

ไม่คาดคิดว่า Nissan Juke Minor Change  จะเตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้เป็นการทำตลาดในไทยที่น่าสนใจและดุเดือดโดย Nissan ได้พยายามตามคู่แข่งไม่ว่าจะเป็น Honda HR-V,Ford Ecosport รวมไปถึง Mazda CX-3 ที่จะตามมาติดๆ และยังมีข่าวออกมาอีกว่าจะมีการเปิดตัว Nissan Navara ตอนเดียวเช่นกันหลังจากที่มีข่าวหลุดข้อมูลมาบางส่วน

สำหรับข้อมูล Juke ใหม่เราก็ได้แนะนำบางส่วนเช่น หน้าตายังคงเดิมแต่เสริมไฟหน้าแบบบูมเมอแรงใหม่ ช่วงล่างกระจังหน้าได้รับการออกแบบใหม่ ไฟท้ายได้หยิบจาก 370Z มาใช้เสริมความสปอร์ตมากขึ้น





New Nissan Juke Minor Change  พร้อมเปิดตัวแน่นอนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558